การสวนกาแฟ

นำกาแฟที่ใช้สวนหนึ่งถ้วยมาต้มกับน้ำสะอาดสามถ้วยเพื่อให้ได้กาแฟที่นำมาสวน โดยดร.เคลลี่แนะนำให้ใช้น้ำสวนก่อนที่จะใช้กาแฟสวน เพื่อว่าที่ลำไส้จะมีน้ำหล่อเลี้ยง (ถ้าร่างกายผู้ป่วยขาดน้ำ และมาใช้กาแฟสวนเลยอาจจะทำให้กาแฟไปซึมไปที่อุจจาระ และจะทำให้ผิดวัตถุประสงค์ที่จะล้างพิษไป) สำหรับเพื่อจุดประสงค์ในการล้างพิษคาเฟอีนจากกาแฟจะต้องผ่านไปทางเส้นโลหิตดำที่จะผ่านเข้าไปที่ตับและส่งคาเฟอีนไปที่ตับ แล้วยังทำให้ถุงน้ำดีและตับขยับขยายทิ้งพิษออกมาทางน้ำผ่านออกมาทางกระเพาะ (คาเฟอีนจากการสวนนั้นจะกระตุ้นอย่างเบาๆ เมื่อร่างกายต้องการที่จะทิ้งสารพิษออกไป)

ในการทำการสวนกาแฟนั้น ให้นอนเอียงตัวไปทางด้านขวาที่พื้นและใส่ท่อที่จะทำการสวนลงไป ปล่อยให้กาแฟนั้นเข้าไป และรอประมาณ 5 ถึง 10 นาที โดยทั้งหลักการของดร.เคลลี่และดร.แม๊กซ์ เกอร์สันนั้นแนะนำให้รอ 15 ถึง 20 นาที โดยเฉพาะถ้าผู้ป่วยอยู่ในช่วงทำการรักษาในกรณีที่ฉุกเฉิน ดร.แม๊กซ์ เกอร์สันเรียกกรณีฉุกเฉินนี้ว่า “อาการจับไข้” เหมือนกับที่ดร.เคลลี่ประสบมา ปกติแล้วการรักษาในกรณีฉุกเฉินนี้เป็นจุดประสงค์ของการรักษาผู้ป่วยเกือบทุกคนที่คลินิกของดร.เกอร์สันและคลินิกดร.เคลลี่ เพราะผู้ป่วยที่ทำส่วนมากจะรู้สึกว่าร่างกายดีขึ้นหลังจากทำการสวนแล้ว เพราะว่าพิษต่างๆ ถูกขับออกมาด้วยเอนไซม์และด้วยวิธีการสวน

วิธีการเตรียมกาแฟที่ใช้สวนที่คลินิกเกอร์สันนั้นคือ เตรียมน้ำสะอาดหนึ่งแกลลอนและเติมกาแฟเข้าไปสามถ้วย ต้มประมาณสามนาที และปิดไฟให้เบาลงและอุ่นไว้ด้วยไฟเบาอีกประมาณ 20 นาที พักรอให้เย็นตัวลง และนำไปแช่เย็น เมื่อต้องการนำไปใช้ให้ใส่หัวกาแฟที่เก็บไว้หนึ่งถ้วยผสมกับน้ำสะอาดสามถ้วยมาสวนกาแฟ

ดร.เคลลี่นั้นก็มีบันทึกจากผู้ป่วยของเขาเอง โดยบันทึกจากผู้ป่วยกว่าพันคนในระยะเวลามากกว่าสิบปีว่าผู้ป่วยที่ใช้วิธีการสวนกาแฟนั้นรู้สึกสุขภาพดีขึ้น ส่วนเรื่องที่คนมักจะถามกันเกี่ยวกับเรื่องการสวนกาแฟนั้นจะได้รับคาเฟอีนปริมาณที่สูงเกินไปหรือไม่นั้น จากบันทึกข้อมูลจากผู้ป่วยนั้นจะบันทึกกันว่าผู้ป่วยรู้สึกสบายตัว ผ่อนคลาย ดังนั้นการสวนด้วยกาแฟไม่เหมือนกับการที่ดื่มรับคาเฟอีนเข้าไปในร่างกาย และยังมีผู้ป่วยอีกหลายคนที่ไม่สามารถดื่มกาแฟได้เพราะคาเฟอีนจากกาแฟ แต่กลับใช้วิธีการสวนกาแฟแล้วรู้สึกผ่อนคลายสบายตัวเช่นกัน