หลักการของการสวนกาแฟ

คาเฟอีนในกาแฟนั้นมีฤทธิ์กระตุ้นเซลล์ของร่างกาย และเมื่อเข้าสู่กระแสเลือดจะกระตุ้นการทำงานของเซลล์ประสาท ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าและทำให้กล้ามเนื้อหัวใจทำงานมากขึ้น เพราะฉะนั้นเมื่อดื่มกาแฟ หัวใจจึงเต้นเร็ว และทำให้ไตทำงานขับน้ำออกไปมากขึ้น รวมทั้งทำให้กระเพาะลำไส้เคลื่อนไหวมากขึ้น และกระตุ้นให้กระเพาะหลั่งน้ำย่อยออกมามากขึ้น และอาการทั้งหมดนี้เกิดจากจากดื่มกาแฟเข้า ซึ่งอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นภายใน 10 นาทีหลังจากที่ดื่มกาแฟๆ จะซึมเข้าไปในเส้นเลือดดำเข้าหัวใจโดยตรงและถูกสูบฉีดเข้าไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย

แต่การสวนกาแฟนั้นแตกต่างกับการดื่มอย่างสิ้นเชิง เมื่อเราใส่กาแฟเข้าทางทวารหนักการดูดซึมจะเข้าทางเส้นเลือดดำของทวารหนัก (Hemorrhoidal Vein) ซึ่งจะเข้าสู่ตับโดยผ่านเส้นเลือดดำของตับ (Hepatic Portal Vein) ก่อนที่จะซึมไปสู่ส่วนอื่นๆ ของร่างกาย และเมื่อคาเฟอีนเข้าสู่ตับแล้ว เซลล์ตับจะจับคาเฟอีนไว้ โดยที่คาเฟอีนจะทำให้เซลล์ทำงานมากขึ้น เซลล์ตับจะขยันมากขึ้น โดยเซลล์ตับใหญ่มีหน้าที่ขับสารพิษออกไปจากร่างกายและสร้างน้ำดี โอ อี เมเยอร์ และเฮิร์บเนอร์

มหาวิทยาลัยโกททินเกนในเยอรมันพบว่าเซลล์ตับที่ถูกคาเฟอีนกระตุ้นจะเร่งขับสารพิษออกไปทางน้ำดี และจะสร้างน้ำดีมากขึ้น โดยกาแฟจะทำให้ท่อน้ำดีเปิดเป็นการเร่งขับเอาน้ำดีปนสารพิษออกไปทางลำไส้ วิธีการนี้มีประโยชน์มากในการขจัดสารพิษจากก้อนมะเร็งออกนอกร่างกาย

ดังนั้นหลังจากการสวนกาแฟแล้ว อาการไข้จะลดลงโดยมิต้องใช่ยาลดไข้ อาการปวดเมื่อยตามตัวจะทุเลาลง อาการปวดท้อง อาการคลื่นไส้ และอาเจียนจะหายไปเร็วกว่าคนที่ไม่ได้สวน โดยทั่วไปผู้ป่วยจะรู้สึกสบายเนื้อสบายตัวขึ้น แต่การดื่มกาแฟมิสามารถช่วยกำจัดสารพิษได้ เพราะการดูดซึมที่แตกต่างกัน