ระบบประสาทอัตโนมัติ

ระบบประสาทอัตโนมัติแบ่งออกเป็น

1. ซิมพาเทธิค จะทำงานเกี่ยวการกระตุ้นหัวใจให้เต้นเร็วขึ้น สั่งให้ตับอ่อนไม่หลั่งเอนไซม์ตับอ่อน สั่งให้ลำไส้หยุดการเคลื่อนไหว หยุดการบีบตัว และยังสั่งกระตุ้นให้ต่อมไร้ท่อหลั่งสาร

2. พาราซิมพาเทธิค จะทำงานเกี่ยวข้องกับการกระตุ้นให้หัวใจเต้นช้าลง ทำให้หลั่งเอนไซม์ตับอ่อน กระตุ้นให้ลำไส้ให้บีบตัวหรือเคลื่อนไหว และลดการกระตุ้นให้ต่อมไร้ท่อหลั่งสาร

ระบบประสาททั้งสองอย่างทำงานอยู่ในร่างกายของเราตลอดเวลา เพื่อให้ระบบในร่างกายของเราทำงานให้ปกติ ถ้าบางคนมีระบบซิมพาเทธิคมากเกินไปและทำงานมากเกินไปจะทำให้ระบบประสาทพาราซิมพาเทธิคทำงานด้อยกว่า และถ้าคนที่มีระบบพาราซิมพาเทธิคมากเกินไปจะทำให้ระบบซิมพาเทธิคทำงานด้อยกว่า และกลุ่มคนประเภทที่สามคือระบบทั้งระบบทำงานสมดุลกัน

โดยที่ดร.เคลลี่ค้นพบว่าค่าความเป็นกรดและด่างนั้นเกี่ยวพันกับระบบประสาททั้งซิมพาเทธิคและพาราซิมพาเทธิค ถ้าร่างกายมีสภาพความเป็นกรด ระบบซิมพาเทธิคจะทำงาน และระบบพาราซิมพาเทธิคจะปิด ดังนั้นระบบซิมพาเทธิคและระบบพาราซิมพาเทธิคนั้นเกี่ยวข้องกับความสมดุลของค่าความกรดและด่างในร่างกาย (PH) ตัวอย่างเช่น ในการรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจที่ส่งมาที่ห้องฉุกเฉินเพราะว่าผู้ป่วยทรมานกับสภาพร่างกายที่เป็นกรด โดยทั่วไปจะเติมแคลเซียมและไบคาร์บอเนต แต่ที่อันตรายต่อผู้ป่วยจนทำให้ผู้ป่วยทนไม่ไหวนั่นเพราะว่าการที่เติมไบคาร์บอเนตมากเกินไป สภาพความเป็นด่างจะไปหยุดการทำงานของระบบประสาทซิมพาเทธิค ซึ่งระบบซิมพาเทธิคนั้นมีหน้าที่กระตุ้นให้หัวใจทำงาน แต่การเติมด่างที่มากเกินไปจะทำให้หัวใจหยุดเต้น ดังนั้นการเติมไบคาร์บอเนตนั้นควรจะต้องให้สมดุลกับค่าความเป็นกรดและด่างของร่างกาย