Max Gerson Therapy

ข้าวต้มทรงเครื่อง

ข้าวต้มทรงเครื่อง

ส่วนประกอบ

1. ข้าวกล้องที่หุงแล้วหรือใช้ข้าวสารก็ได้
2. น้ำซุปโปรแทสเซียม
3. ข้าวโพดเมล็ด
4. เม็ดบัว
5. เห็ดหอมหั่นสี่เหลี่ยม
6. เผือก
7. แครอทหรือฟักทอง
8. ต้นหอม
9. ผักชี
10. กระเทียมอบ
11. ซีอิ้วขาว

ลาบเห็ด

ลาบเห็ด

ส่วนประกอบ

1. เห็ดหอมตุ๋น
2. ข้าวคั่ว (ข้าวกล้องคั่ว)
3. พริกป่น
4. ผักชีฝรั่ง
5. สาระแหน่
6. มะนาว
7. ซีอิ้วขาว
8. หอมแดง
9. ใบมะกรูด
10. ต้นหอม
11. ผักชี

วิธีทำ

1. สับเห็ดหอมตุ๋นพอหยาบๆ พักไว้
2. หั่นหอมแดง. ผักชีฝรั่ง. ต้นหอม, ผักชี, ใบมะกรูด
3. นำเห็ดที่สับไว้แล้วตั้งไฟคั่วให้สุกร้อน แล้วนำหอมแดง, ผักชีฝรั่ง, ต้นหอม, ใบมะกรูด, ผักชี, ข้าวคั่ว, ซีอิ้วขาว, มะนาว, พริกป่น คนให้เข้ากันแล้วชิมรสชาติ
4. ตักใส่จานเสริฟพร้อมผักสด

แกงเขียวหวาน

แกงเขียวหวาน

ส่วนประกอบ

1. กะทิข้าวโพด
2. มะเขือเปาะ, มะเขือพวง หรือมะเขือยาว
3. ใบโหระพา
4. ใบมะกรูด
5. เห็ดหอมหรือลูกชิ้นเห็ดหอม
6. ดอกกะหล่ำ
7. แครอท
8. พริกชี้ฟ้าแดง
9. น้ำซุปโปรแทสเซียม
10. พริกแกง
11. ซีอิ้วขาว

วิธีทำ

เส้นหมี่ข้าวกล้องผัดซีอิ้ว

เส้นหมี่ข้าวกล้องผัดซีอิ้ว

ส่วนประกอบ

1. เส้นหมี่ข้าวกล้อง (หรือโฮลวีท)
2. เห็ดหอม
3. บล็อกโคลี่
4. แครอท
5. คะน้า
6. ผักกาดขาว
7. ซีอิ้วขาว
8. ซีอิ้วดำ
9. น้ำซุปโปรแทสเซียม

วิธีทำ

การทำน้ำซุปโปรแทสเซียม

น้ำซุปโปรแทสเซียม

น้ำซุปโปรแทสเซียมนั้นใช้เป็นส่วนประกอบของการทำอาหารทุกชนิด เพราะว่าการทำอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งจะไม่ใช้น้ำมัน ดังนั้นจึงต้องใช้น้ำซุปโปรแทสเซียมแทนน้ำมัน

ส่วนประกอบ

1. น้ำสะอาด
2. กะหล่ำปลี
3. แครอท
4. มันฝรั่ง
5. หอมใหญ่
6. มะเขือเทศ

วิธีทำ

นำน้ำสะอาดและผักต่างๆ ใส่หม้อตั้งจนเดือด เคี่ยวนานประมาณ 2 ชั่วโมงถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง

เมนูอาหารไทยตามแนวแมกซ์ เกอร์สัน

อาหารทานได้สำหรับคนป่วยมะเร็ง

1. ควรรับประทานจำพวกคาร์โบไฮเดรต เช่น จำพวกข้าวกล้อง เผือก มัน ข้าวโพด ขนมปังโฮสวีท ซึ่งปราศจากผงฟูและเนย
2. ควรทานผักสด ผลไม้ทุกชนิด ควรแช่ผงถ่าน 15 นาที (แอนตี้เวตแตทชาโคร์) จะได้ปราศจากเชื้อโรคและสารพิษที่ติดมากับผักและผลไม้ หรือใช้เครื่องล้างผักอุลตร้าโซนิค

ขนมปัง

การรักษาแบบเกอร์สันนั้นสามารถที่จะทานขนมปังได้ แต่จะต้องห้ามทานมากหรือห้ามทานขนมปังเป็นอาหารหลักของมื้อเด็ดขาด ขนมปังที่ทานควรจะเป็นขนมปังโฮลวีทที่ปลอดสารพิษและไม่มีเกลือเป็นส่วนผสม

อุปกรณ์การประกอบอาหาร

การที่จะต่อสู้กับโรคร้ายและไม่ให้ภูมิของร่างกายของผู้ป่วยต้องทำงานหนักเกินไป เพราะนอกจากภูมิร่างกายจะต้องต่อสู้กับมะเร็งร้าย ยังต้องมาต่อสู้กับมลภาวะที่เกิดจากอาหารของผู้ป่วย ดังนั้นทุกๆ รายละเอียดจึงเป็นสิ่งสำคัญในการบำบัด

เครื่องมือเครื่องใช้ในครัวควรจะเป็นสแตนเลส ไม่ใช้อลูมิเนียม ผักและผลไม้ที่มาใช้ประกอบอาหารนั้นควรล้างด้วยผงถ่านเพื่อทำความสะอาดให้ดีที่สุด

การที่เลือกทานเห็ดนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องสำหรับคนป่วยโรคมะเร็ง เห็ดที่ทานได้นั้นควรเป็นเห็ดหอม เห็ดหูหนู และเห็ดหูหนูสีขาว และควรงดการทานเห็ดสดทุกๆ ชนิด เพราะโปรตีนของเห็ดสดนั้นสูงเกินความต้องการของผู้ป่วย นอกจากนั้นไม่ควรทานถั่วเหลืองหรือผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เนื่องจากถั่วเหลืองนั้นมีโปรตีนสูงใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์

เกลือ น้ำตาล น้ำมัน หรือไขมันจากผลิตภัณฑ์ต่างๆ ควรงดทุกอย่าง เพราะสิ่งเหล่านี้คืออาหารที่ทำให้มะเร็งนั้นเติบโตได้อย่างรวดเร็ว การรักษาโดยมากจะเน้นที่ให้ทานผักและผลไม้มากๆ หรือดื่มน้ำเอนไซม์มากๆ แต่ควรคัดเลือกชนิดของผลไม้ เนื่องจากประเทศไทยมีผลไม้หลากชนิด การเลือกผลไม้จึงเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ควรเลือกผลไม้ชนิดที่หวานเกินไป ทุกๆ คนคงทราบว่ากล้วยน้ำว้าที่เป็นผลไม้พื้นบ้านของเรามีคุณค่าทางอาหารสูงและเหมาะมากสำหรับคนเป็นโรคนี้ อย่างไรก็ตามการที่เลือกกล้วยยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเลือกแต่กล้วยที่ยังห่ามๆ คือไม่หวานเกินไป และการรับประทานกล้วยนั้นมิใช่ทานเป็นหวีในแต่ละวัน ควรทานเพียงแค่หนึ่งถึงสองผลต่อวัน และผลไม้ที่ดีที่สุดสำหรับคนไข้คือแอปเปิ้ลสีเขียว แต่ทุกครั้งที่นำมาใช้อย่าลืมที่จะล้างด้วยผงถ่านให้สะอาดเสียก่อน

การดีท็อกซ์หรือการสวนกาแฟ

การดีท็อกซ์

สิ่งที่สำคัญในการรักษาแบบเกอร์สันคือการดีท็อกซ์เนื้อเยื่อเซลล์ต่างๆ และเลือด ซึ่งการดีท็อกซ์จะทำด้วยการสวนกาแฟ

ผู้ป่วยหลายรายได้บอกว่าการสวนกาแฟนั้นช่วยลดความเจ็บปวดในการรักษา การสวนกาแฟนั้นเป็นการเลียนแบบการทำงานของร่างกายที่ผนังกระเพาะและตับ ทำให้เกิดน้ำดีขึ้นในร่างกาย จึงทำให้สารพิษต่างๆ จากสภาพแวดล้อม ยาจากเคมีบำบัด และที่อื่นๆ ในร่างกายน้อยลงไป

เนื้อเยื่อต่างๆ ของโรคจะค่อยลดลงอย่างรวดเร็ว และยังช่วยให้ร่างกายซึมซับเอนไซม์ที่ดีที่รับประทานจากอาหารได้ดีขึ้นเพื่อช่วยเนื้อเยื่อที่ไม่ดีทั้งหลายให้หายลดลงไปได้อีกด้วย

การสวนกาแฟเป็นวิธีการที่ทั้งแมกซ์ เกอร์สันและดร. เคลลี่เลือกใช้แพร่หลายตั้งแต่ปี 1930 และยังเป็นวิธีการที่ยอมรับของวงการแพทย์สหรัฐฯ โดยการมีระบุวิธีการนี้ในคู่มือการแพทย์ของเมิร์ก (Merck Medical Manual) ซึ่งการสวนกาแฟเป็นวิธีการเร่งตับให้ขจัดสารพิษออกาจากร่างกายให้ได้มากที่สุด ก้อนมะเร็งประกอบด้วยเนื้อตายอยู่ในแกนกลาง เนื้อเยื่อที่ตายนี้มิได้อยู่ในร่างกายเหมือนเนื้อเยื่อธรรมดาอื่นๆ การเน่าสลายของเนื้อเยื่อที่ตายไปแล้วจะสร้างปฏิกิริยาโดยทำให้เกิดสารบางอย่างที่ทำให้ผู้ป่วยมะเร็งไม่สบาย โดยอาจจะมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว มีไข้ เบื่ออาหาร ทานอาหารไม่ลง ผอมลง ฯลฯ การสวนด้วยกาแฟจะทำให้คนไข้รู้สึกสบายมากขึ้น นอกจากนี้การสวนกาแฟทำให้คนไข้บางรายมีอาการไข้ลดลง สามารถทานอาหารได้มากขึ้น และฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

ก้อนมะเร็งมี 3 ชั้น

1. ชั้นนอกเป็นเซลล์ที่กำลังเติบโต
2. ชั้นกลางเป็นเซลล์ระยะพัก
3. ชั้นในเป็นเซลล์ที่ตายแล้ว

เซลล์ที่ตายในชั้นในนี้เกิดขึ้นจากการที่ชั้นนอกที่โตเร็วมากแย่งอาหารและออกซิเจน และเป็นสาเหตุให้ชั้นในขาดอาหารและออกซิเจน จึงทำให้ชั้นในตายอยู่ในแกนกลาง เซลล์ที่ตายเหล่านั้นจะย่อยสลายและหลั่งสารพิษออกมา ซึ่งสารพิษนี้เมื่อซึมเข้าสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกายจะทำให้คนไข้เกิดอาการต่างๆ มากมาย เช่น มีไข้ต่ำๆ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ ปวดท้อง และคนไข้บางรายที่มีลมในลำไส้มาก จะมีอาการเบื่ออาหาร ทานอาหารไม่ได้ ซึ่งเป็นสาเหตุให้น้ำหนักลด

การบำบัดโดยยา

การบำบัดโดยยา

ทางเกอร์สันจะเน้นไปทางธรรมชาติ
- โปรแตสเซียม (Potassium compound)
- ลูกอร์ (Lugol's solution)
- วิตะมินบี 12 (Vitamin B-12)
- ฮอร์โมนไทรอยด์ (Thyroid hormone)
- ยาฉีดที่เป็นตับธรรมชาติชนิดเข้มข้น (Injectable Crude Liver Extract)
- เอนไซม์ (Enzymes)
- การสวนด้วยกาแฟหรือสวนด้วยคาร์โมไมล์

อาหารตามหลักการวิธีรักษาของนพ. แมกซ์ เกอร์สัน

เกอร์สันเน้นหนักไปที่การได้รับวิตามินที่สูง เอนไซม์ และมีความเค็มและไขมันน้อย

- น้ำเอนไซม์ที่มาจากผักและผลไม้ปลอดสารพิษต่างๆ เช่น แครอทดิบ แอปเปิ้ล และผักใบเขียวต่างๆ ดื่มทุกชั่วโมง ทั้งหมดวันละสิบสามแก้ว ตัวอย่างน้ำเอนไซม์ แอปเปิ้ลเขียว 4 แก้ว แอปเปิ้ลเขียวผสมแครอท 4 แก้ว และน้ำผักใบเขียว 5 แก้ว
- อาหารสามมื้อที่มีผักและผลไม้ปลอดสารพิษ พร้อมทั้งข้าวกล้องหรือโฮลวีท โดยปกติแล้วจะมีสลัด ผัดผักหรืออบ มันอบ น้ำซุปผัก และน้ำผลไม้
- ผลไม้สดทานเล่นตลอดทุกชั่วโมง

หลักการวิธีรักษาของนพ. แมกซ์ เกอร์สัน

เนื่องจากสภาพมลภาวะปัจจุบันทำให้ร่างกายของเราเต็มไปด้วยโรคต่างๆ และอาจจะมีมะเร็งด้วย ซึ่งมลภาวะเหล่านี้เกิดจากอากาศที่เราหายใจเข้าไป อาหารที่เรารับประทาน ยาที่เราทาน และน้ำที่เราดื่ม ปัจจัยเหล่านี้จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายของเราสะสมพิษต่างๆ เข้าไปโด้ยที่เราไม่รู้ตัว และมีสารพิษมากขึ้นเรื่อยๆ การที่เราจะพยายามกลับไปใช้ชีวิตให้ดี หรือการเสริมภูมิร่างกายให้แข็งแรงมากขึ้น จึงเป็นเรื่องสำคัญ

การเสริมภูมิร่างกายให้แข็งแรงขึ้นหรือให้คงสภาพที่ดีจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะสามารถต้านทานโรคต่างๆ ได้มากมาย อย่างเช่นแนวเกอร์สันที่แนะนำให้กลับมาสู่ธรรมชาติให้มากที่สุด การดื่มน้ำเอนไซม์ (น้ำที่แยกกากจากผลไม้และผัก) ให้ได้ถึงสิบสามแก้วต่อวันก็จะสามารถช่วยทำให้โรคต่างๆ ที่อยู่ตามเนื้อเยื่อส่วนต่างๆ ของร่างกายนั้นลดน้อยลง เพราะโดยปกติแล้วพิษในร่างกายของคนเราจะสะสมอยู่ที่ตับ

สาเหตุของโรคต่างๆ นั้นมาจาก “การรับประทานจริงหรือไม่” แต่แมกซ์ เกอร์สันกล่าวไว้ว่า “พยายามใช้ชีวิตอยู่อย่างธรรมชาติให้มากที่สุดดีที่สุด เพราะจะเป็นเกราะป้องกันที่ดีสำหรับทุกๆ คน” เพราะเขาเชื่อว่าโรคต่างๆ นั้นมากจากการใช้ชีวิตของแต่ละคน สารพิษที่แต่ละคนค่อยๆ สะสมเข้าไปในร่างกาย อาหารที่ไม่ได้คุณภาพ น้ำที่ดื่ม และอากาศที่หายใจเข้าไป

การดูแลแบบเกอร์สันเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงร่างกายให้ด้วยการให้อาหารที่โดยรวมแล้วมีผลไม้และผักที่ปราศจากสารพิษทุกวัน โดยอาจจะให้ดื่มน้ำเอนไซม์ทุกๆ ชั่วโมงให้ครบสิบสามแก้วในแต่ละวัน พยายามให้ได้รับออกซิเจนมากกว่าปกติสองเท่า เพราะจำนวนออกซิเจนเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับระบบหมุนเวียนโลหิตที่จะต่อต้านเชื้อโรคต่างๆ ส่วนในเรื่องการเผาผลาญนั้นสามารถจำลองผ่านด้วยการทานวิตะมินเสริมต่างๆ และหลีกเลี่ยงการทานเนื้อสัตว์ที่มีไขมันมาก โปรตีนที่สูงเกินไป โซเดียมต่างๆ และสารพิษต่างๆ

การที่ร่างกายไม่สามารถขับสารพิษต่างๆ ได้ดีเพราะเกิดจากทำงานที่ไม่ได้ประสิทธิภาพของตับและไต เพื่อป้องกันสิ่งเหล่านี้ เกอร์สันจึงเน้นการที่จะจำกัดสารพิษเข้าไปในร่างกาย ทำให้ตับกลับมาทำงานดีขึ้น ทำให้ภูมิของร่างกายดีขึ้นและสามารถปกป้องเซลล์ต่างๆ ได้ เพิ่มออกซิเจน และดีท็อกซ์สารพิษออกไปได้ ถึงจะทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น และไม่ป่วยง่าย

แต่การรักษานั้นมิได้หมายความว่าการดูแลแต่ละคนจะเหมือนกันในทุกๆ ครั้ง

หน้า

Subscribe to RSS - Max Gerson Therapy