1 ธ.ค. 2551 - เมื่อแพทย์ทางปอดเจาะปอดผิดข้าง!!


วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2551
Monday 1 December 2008

เช้านี้แพทย์คีโมเข้ามาถามเรื่องคุณพ่ออีกว่า อยากพบคุณพ่อ ซึ่งเราไม่เข้าใจว่าแพทย์คีโมตกข่าวเช่นนี้ได้อย่างไร เพราะจริงๆ แล้วทุกๆ ครั้งที่แพทย์เข้ามาเยี่ยมจะมาพร้อมกับพยาบาลที่วอร์ดอีกคนหนึ่งด้วยทุกครั้ง และพยาบาลส่วนใหญ่ทั้งสองวอร์ดก็รู้อยู่แล้วว่าคุณพ่อพักฟื้นอยู่ห้องด้านล่าง แต่แพทย์คีโมยังมาถามหาคุณพ่อที่ห้องน้องอยู่ทุกวัน

แพทย์ทางหัวใจมาตรวจเยี่ยมน้องเหมือนปกติ น้องสาวยังตั้งคำถามเดิมให้แพทย์ทางหัวใจว่า น้องมีน้ำที่ปอดหรือไม่ และถ้ามีๆ ที่ปอดข้างไหน เพราะวันนี้น้องรู้สึกเหนื่อยเพิ่มมากขึ้น แพทย์ทางหัวใจก็ยังคงตอบน้องว่ายังมีน้ำอยู่ที่ปอด ซึ่งเป็นปอดข้างซ้าย

เผอิญที่แพทย์ทางปอดเข้ามาเยี่ยมน้องพร้อมกันกับที่แพทย์ทางหัวใจยังอยู่ที่ห้องของน้อง แพทย์ทางปอดถามน้องว่าเป็นอย่างไรบ้าง น้องบอกแพทย์ทางปอดไปว่าวันนี้รู้สึกเหนื่อยๆ แพทย์ทางปอดจึงใช้เครื่องมือหูฟังๆ ดูเสียงจากปอด หลังจากนั้นน้องก็ตั้งคำถามให้แพทย์ทางปอดเป็นคำถามเดียวกันกับที่ถามแพทย์ทางหัวใจว่า น้องมีน้ำอยู่ที่ปอดหรือไม่ ถ้ามีๆ อยู่ที่ปอดข้างไหน แพทย์ทางปอดตอบน้องว่าน้องมีน้ำอยู่ที่ปอด น้องถามต่อทันทีว่าที่มีน้ำที่ปอดข้างไหน แพทย์ทางปอดตอบน้องว่าที่ปอดข้างขวา แพทย์ทางปอดหันไปพูดกับแพทย์ทางหัวใจต่อว่า ถ้าหัวใจของน้องดีขึ้นแล้ว ให้ย้ายน้องกลับไปที่โรงพยาบาลเอกชนย่านพญาไทที่มีแพทย์ทางปอดที่เป็นญาติอยู่เพื่อกลับไปเจาะปอดที่นั่น พวกเราต่างก็งงๆ กับคำตอบของแพทย์ทางปอดที่โรงพยาบาลแห่งนี้ น้องสาวจึงบอกแพทย์ทั้งสองคนไปว่า ถ้าน้องออกจากโรงพยาบาลครั้งนี้ หมายความว่าน้องสาวจะกลับบ้าน และไม่ไปที่โรงพยาบาลที่ไหนอีกแล้ว เพราะน้องไม่อยากอยู่โรงพยาบาลอีกแล้ว น้องอยู่มาเกือบร่วมเดือนแล้วและไม่ต้องการพักฟื้นที่โรงพยาบาลแห่งไหนอีก

หลังจากที่น้องสาวพูดไปเช่นนั้น แพทย์ทางปอดหันไปมองหน้าแพทย์ทางหัวใจและบอกว่า ถ้าเช่นนั้นก็ต้องเจาะปอดที่นี่ น้องสาวเลยถามไปว่าใครจะเป็นคนเจาะให้ แพทย์ทางปอดจึงบอกออกมาว่า “ผมจะเป็นคนเจาะให้” และแพทย์ทางปอดยังบอกว่าเดี๋ยวช่วงบ่ายนี้จะเจาะให้น้องเลย น้องถามต่อทันทีว่าจะเจาะที่ปอดข้างไหนของน้อง แพทย์ทางปอดตอบน้องสาวว่าต้องเจาะที่ปอดข้างขวา เพราะน้องมีน้ำที่ปอดข้างขวา หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น เราเริ่มรู้สึกใจไม่ดีว่าทำไมแพทย์ทางปอดคนนี้ถึงจะมาเจาะด้านขวา ในเมื่อแพทย์ทางปอดที่เป็นญาติบอกว่าปอดข้างขวาของน้องแฟบไปแล้ว

วันนี้เราก็นั่งสวดมนต์และอ่านหนังสือให้น้องฟังเหมือนปกติจนกระทั่งสี่โมงเย็น พยาบาลขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้น้องว่าจะพาน้องลงไปเจาะปอด ซึ่งเราถามพยาบาลว่าปกติที่นี่เจาะปอดที่ไหน พยาบาลบอกว่าขึ้นอยู่กับพิจารณาของแพทย์ เราถามพยาบาลต่อว่าไม่ต้องเอกซเรย์หรือ เพราะครั้งสุดท้ายที่น้องเอกซเรย์คือวันที่ 27 พฤศจิกายน พยาบาลบอกแต่เพียงว่าแพทย์ทางปอดจัดการเอง เมื่อเราวิ่งตามน้องไปได้แต่สงสัย เพราะวันนี้น้องไม่ได้ไปเจาะปอดที่ห้องอัลตร้าซาวนด์เหมือนที่เคยทำที่อีกโรงพยาบาลหนึ่ง แต่แพทย์ให้น้องเข้าไปเจาะปอดที่ห้องผ่าตัด โดยที่ไม่ได้เอกซเรย์อะไรเลย เราเลยเริ่มรู้สึกกังวล จึงโทรไปถามน้องชายๆ ก็บอกเพียงว่าให้รอดูว่าจะเป็นอย่างไร แพทย์ทางปอดที่นี่อาจจะมีวิธีที่ดีกว่าก็ได้ ก่อนที่แพทย์จะเข้าห้องผ่าตัดไปเจาะปอดให้น้อง เราถามแพทย์ทางปอดว่า แพทย์ทางปอดจะเจาะปอดข้างไหนของน้อง ซึ่งแพทย์ทางปอดตอบว่าเจาะที่ปอดขวา เราจึงถามต่อว่าเจาะข้างขวาได้หรือคะ เพราะแพทย์ทางปอดที่เป็นญาติบอกว่าปอดขวาของน้องแฟบไปแล้ว แพทย์ทางปอดท่านก็ไม่ได้ตอบอะไร เราจึงซักต่อว่า น้องเป็นมะเร็งที่ปอดขวา และถ้าแพทย์ไปเจาะที่ปอดขวาของน้อง จะไม่ลุกลามมากขึ้นไปอีกหรือ แพทย์ทางปอดตอบมาว่ายังไงๆ น้องก็อยู่ในขั้นลุกลามแล้ว คงไม่มีทางช่วยได้มากแล้ว คำตอบของแพทย์ทางปอดนั้นทำให้เราใจไม่ดี และรอเฝ้าอยู่หน้าห้องด้วยความวิตก

เพียงไม่เกินสิบห้านาที บุรุษพยาบาลและพยาบาลเข็นน้องออกมาจากห้องผ่าตัด เป็นการเจาะปอดที่เร็วที่สุดที่เราเคยรอน้องมา เราจึงถามน้องด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่าเสร็จแล้วเหรอ ทำไมวันนี้เจาะเร็วจัง ได้น้ำออกมาเยอะหรือไม่ แต่เมื่อบุรุษพยาบาลหันเตียงของน้องให้เราเห็นหน้าน้อง เรารู้ได้ทันทีว่ามีปัญหาแน่ๆ เพราะสีหน้าน้องบอกได้เลย เราจึงถามน้องว่าเจาะหรือยัง น้องส่ายหน้าบอกเรา เราจึงรีบหันไปซักพยาบาลต่อว่าเจาะปอดน้องหรือยัง พยาบาลบอกว่าเจาะเรียบร้อยแล้ว เราจึงถามว่านี่จะพาน้องไปไหนต่อระหว่างที่รอลิฟท์ พยาบาลบอกว่าจะพาน้องไปที่ห้องเอกซเรย์ เราจึงเริ่มสงสัยว่าทำไมถึงเจาะก่อนแล้วค่อยส่งไปห้องเอกซเรย์ภายหลัง แต่เพราะจากสีหน้าของน้อง เรามั่นใจว่าน้องไม่ได้เจาะน้ำออกไปแน่ๆ

เมื่อไปถึงห้องเอกซเรย์ เราและน้องสาวอีกคนรออยู่หน้าห้องเอกซเรย์ แพทย์ทางปอดเดินเข้ามาบอกน้องว่า เจาะไปที่ปอดขวาแล้วได้ออกมาประมาณสิบซีซีออกมาเป็นเลือดหมดเลย เราจึงบอกไปว่าทุกครั้งที่เจาะปอดซ้ายก็ได้ออกมาเป็นเลือดอยู่แล้วเหมือนกัน แพทย์ทางปอดก็ไม่สนใจ และเดินหายหน้าไปเลย

น้องสาวถูกเข็นพาขึ้นกลับห้อง ขณะที่พยาบาลกำลังพาน้องกลับขึ้นเตียง เราจึงรีบโทรไปบอกแพทย์ทางปอดที่เป็นญาติว่าน้องถูกเจาะที่ปอดขวาและออกมาประมาณสิบซีซีเป็นเลือด แพทย์ทางปอดที่นี่จึงพาน้องกลับไปเอกซเรย์ดูใหม่ แพทย์ทางปอดที่เป็นญาติจึงบอกเราว่าให้ลองบอกแพทย์ทางปอดที่โรงพยาบาลนี้ดูว่าให้ลองเจาะข้างซ้ายได้หรือไม่ เพราะปกติที่เจาะข้างซ้ายน้องก็ยังพอหายใจอยู่ได้ ไม่เหนื่อยมาก เราจึงรีบไปรอแพทย์ทางปอดที่ปกติจะเข้ามาสรุปกับน้องหลังการรักษา แต่ปรากฏว่าแพทย์ทางปอดกลับบ้านไปเฉยเลย

วันนี้น้องยังคงปกติอยู่ ทานอาหารได้น้อยลง แต่ก็ยังคงทานครบมื้อได้ ช่วงเย็นๆ มีคนมาเยี่ยมเหมือนเดิม เพียงแต่วันนี้น้องเริ่มเหนื่อย มีแอบปิดตางีบอยู่พักหนึ่ง แต่น้องยังคงทำกิจวัตรทุกอย่างได้เหมือนปกติ คืนนี้เราจึงมาลุกๆ นั่งแถวเตียงน้องตลอดคืน

แสดงความคิดเห็น

Filtered HTML

  • To post pieces of code, surround them with <code>...</code> tags. For PHP code, you can use <?php ... ?>, which will also colour it based on syntax.
  • Web page addresses and e-mail addresses turn into links automatically.
  • You may quote other posts using [quote] tags.
  • Allowed HTML tags: <a> <em> <strong> <cite> <blockquote> <code> <ul> <ol> <li> <dl> <dt> <dd>
  • Lines and paragraphs break automatically.

Comment Input

  • Web page addresses and e-mail addresses turn into links automatically.
  • Allowed HTML tags: <a> <em> <strong> <cite> <code> <ul> <ol> <li> <dl> <dt> <dd> <p> <img> <center> <font> <u> <br/>
  • Lines and paragraphs break automatically.

Plain text

  • No HTML tags allowed.
  • Web page addresses and e-mail addresses turn into links automatically.
  • Lines and paragraphs break automatically.